![]() |
เสด็จถิ่นกันดารไทยไปทุกภาค ทรงเหนื่อยยากอย่างไรไปทุกหน
พระเสโทรินหลั่งดั่งสายชล ประชาชนพ้นทุกข์เข็ญร่มเย็นเอย
น้อมระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ
คณะสงฆ์ชาวบ้านประชาชน
|
หลักธรรมของพระราชา ๑๐ ประการ.
นับแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พระองค์ทรงดำรงอยู่ใน “ทศพิธราชธรรม” คือ ธรรมะ ๑๐ ประการ สำหรับพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระองค์ทรงยึดมั่นมาตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่ทรงครองราชย์ และพระองค์ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม อันมีทศพิธราชธรรม ๑๐ประการ ได้แก่
๑. “ทาน” คือ การให้ หมายถึง การสละทรัพย์ สิ่งของ เพื่อช่วยเหลือคนที่ด้อยและอ่อนแอกว่า.
๒. “ศีล” คือ การตั้งอยู่ในศีล หมายถึง มีความประพฤติดีงาม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนทั่วไป.
๓. “ปริจาคะ” คือ การบริจาค หมายถึง การเสียสละความสุขสำราญของตน เพื่อประโยชน์สุขของหมู่คณะ.
๔. “อาชชวะ” คือ ความซื่อตรง หมายถึง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงใจ ไม่กลับกลอก
.๕. “มัททวะ” คือความอ่อนโยน หมายถึง มีกิริยาสุภาพ มีสัมมาคารวะ วาจาอ่อนหวาน มีความนุ่มนวล ไม่เย่อหยิ่ง ไม่หยาบคาย
๖. “ตบะ” คือความเพียร หมายถึง การเพียรพยายามไม่ให้ความมัวเมาเข้าครอบงำจิตใจ ไม่หมกมุ่นกับความสุขสำราญ
.๗. “อักโกธะ” คือความไม่โกรธ หมายถึง มีจิตใจมั่นคง มีความสุขุม อดกลั้น ไม่แสดงความโกรธหรือความไม่พอใจให้ปรากฏ.
๘. “อวิหิงสา” คือความไม่เบียดเบียน หมายถึง การดำเนินชีวิตไปตามทางสายกลาง ไม่กดขี่ข่มเหง กลั่นแกล้งรังแกคนอื่น ไม่หลงในอำนาจ.
๙. “ขันติ” คือความอดทนหมายถึง การอดทนต่อสิ่งทั้งปวง สามารถอดทนต่องานหนัก ความยากลำบาก และอดกลั้นต่อคำติฉินนินทา.
๑๐. “อวิโรธนะ” คือความเที่ยงธรรม หมายถึง ความหนักแน่น ถือความถูกต้อง เที่ยงธรรมเป็นหลัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น