ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด
ได้เกิดความคิดคำนึงขึ้นอย่างนี้ว่า “ภิกษุสักการะ เคารพ อาศัยอะไรหนอแลอยู่
จึงละอกุศล เจริญกุศลได้” ลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตรจึงมีความคิดดังนี้ว่า
๑. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
๒. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระธรรม
๓.ภิกษุสักการะ
เคารพ อาศัยพระสงฆ์
๔. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสิกขา
๕. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสมาธิ
๖. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยความไม่ประมาท
๗. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
ต่อมา
ท่านพระสารีบุตรได้มีความคิดดังนี้ว่า “ธรรมของเราเหล่านี้ บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทางที่ดี เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค ธรรมของเราเหล่านี้จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้
เปรียบเหมือนบุรุษได้ทองคำแท่งอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขามีความคิดอย่างนี้ว่า
‘ทองคำแท่งของเรานี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปเสนอทองคำแท่งนี้แก่ช่างทอง ทองคำแท่งของเรานี้ไปถึงช่างทองแล้วจักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วยอาการอย่างนี้ แม้ฉันใดธรรมของเราเหล่านี้
ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จักบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค ธรรมของเราเหล่านี้ก็จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้”
ครั้นในเวลาเย็น
ท่านพระสารีบุตรได้ออกจากที่หลีกเร้น๑- เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอประทานวโรกาส ข้าพระองค์หลีกเร้นอยู่ในที่สงัดเกิดความคิดคำนึงขึ้นอย่างนี้ว่า
‘ภิกษุสักการะ เคารพ อาศัยอะไรหนอแลอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้’
ลำดับนั้นแลข้าพระองค์จึงเกิดความคิดดังนี้ว่า
๑. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
๒. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระธรรม
๓. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระสงฆ์
๔. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสิกขา
๕. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสมาธิ
๖. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยความไม่ประมาท
๗. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ต่อมา ข้าพระองค์ได้มีความคิดดังนี้ว่า
‘ธรรมของเราเหล่านี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาคธรรมของเราเหล่านี้จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วยอาการอย่างนี้
เปรียบเหมือนบุรุษได้ทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เขามีความคิดอย่างนี้ว่า
‘ทองคำแท่งของเรานี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทางที่ดีเราควรจะไปเสนอทองคำแท่งนี้แก่ช่างทอง
ทองคำแท่งของเรานี้ไปถึงช่างทองแล้วจักบริสุทธิ์ และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ด้วยอาการอย่างนี้แม้ฉันใด ธรรมของเราเหล่านี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
จักบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดีเราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค
ธรรมของเราเหล่านี้ก็จักบริสุทธิ์และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ด้วยอาการอย่างนี้”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้ ฯลฯ อาศัยธรรม ฯลฯ อาศัยสงฆ์ ฯลฯ
อาศัยสิกขา ฯลฯ อาศัยสมาธิ ฯลฯ อาศัยความไม่ประมาท ฯลฯ สารีบุตร ภิกษุสักการะ
เคารพ อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้”
(สักกัจจสูตร)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น