นามรูปปริจเฉทญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความแยกขาดจากกันของนามธรรมและรูปธรรม ที่ละอารมณ์โดยสภาพความเป็นอนัตตา
![]() |
จากดงบั้งไฟสู่สถานที่ศึกษาเเละปฏิบัติธรรม |
๓. สัมมสนญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับสืบต่อของนามธรรมรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นโทษของการเกิดดับได้ไม่ชัดเจน
๔. อุทยัพพยญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับของนามธรรมรูปธรรมอย่างละเอียด เป็นวิปัสสนาที่มีกำลัง เห็นโทษของการเกิดดับของสภาพธรรมได้ยิ่งขึ้น
๕. ภังคานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความดับทำลายของนามรูป โดยไม่ใฝ่ใจถึงการเกิด ๖. ภยตุปัฎฐานญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูป โดยเห็นความเป็นภัยในสังขารทั้งหลาย
๗. อาทีนวานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งรูป โดยเห็นความเป็นโทษในสังขารทั้งหลาย
๘. นิพพิทานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูปโดยเห็นทุกข์โทษภัย จนเกิดความเบื่อหน่ายในสังขารธรรมทั้งปวง

๑๑. สังขารุเบกขาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะทั้ง ๓ ของนามรูปที่คมกล้ายิ่งขึ้น จนเกิดความมัธยัสถ์ วางเฉยในสังขารธรรมทั้งปวง
๑๒. อนุโลมญาณ ปัญญาในอนุโลมชวนะ ๓ ขณะในมัคควิถี (บริกรรม อุปจาร อนุโลม) คล้อยตามเพื่อการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน
๑๓. โคตรภูญาณ ปัญญาในโคตรภูชวนะ กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์ ข่มเสียซึ่งโคตรปุถุชนเพื่อถึงอริยโคตร เป็นอาวัชชนแก่มรรคญาณ
![]() |
ปีที่ผ่านมา |
๑๕. ผลญาณ ปัญญาในผลจิตที่เกิดต่อกัน ๑๖.ปัจจเวกขณาณ ญาณใช้ในการพิจารณาเป็นต้นโดยย่อ
พุทธศาสนาจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดภิกษุภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อันเป็นผู้ดำรงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ อันได้เเก่ ปริยัติ ปฏิบัติ เเละปฏิเวธ เป็นอริยะชน กัลยาณชน ทั้งที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ถึงจะเป็นพระปุถุชนก็ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น