ิิblogspot

นมตฺถุ รตฺตนตฺต ยสฺส ขอถวายความนอบน้อมเเด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม เเละ พระสงฆ์ - โพชฌังโคสะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะตะถาปะเร สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเต เต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯเอกัสะมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสะวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินันทิตะวาโรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตะวานะ สาทะรัง สัมโมทิตะวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะโสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะโสตถิ เต โหตุ สัพพะทาฯ

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ปฏิบัติธรรมเข้ากัมมัฏฐาน

โครงการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน จิตตภาวนาของภิกษุสามเณร มจร.อุบลราชธานีโดยนิสิตมหานิกายเเละธรรมยุติ ระหว่างวันที่๑๕-๒๔ธันวาคมเเละถวายเป็นพระราชกุศลเเก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูรเเละเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่โดยศรัทธาญาติโยมผู้มีจิตเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาให้การอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่ชาวพุทธโดยความร่วมมือของพระวิปัสนาจารย์ครูอาจารย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตเเละคฤหัถส์นิสิตจิตอาสา สนับบสนุนเป็นประจำทุกปีโดยมีวัตรปฏิบัตติตามเเนววิปัสสนาญาณ๑๖อันได้เเก่
นามรูปปริจเฉทญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความแยกขาดจากกันของนามธรรมและรูปธรรม ที่ละอารมณ์โดยสภาพความเป็นอนัตตา  
จากดงบั้งไฟสู่สถานที่ศึกษาเเละปฏิบัติธรรม
๒. ปัจจยปริคคหญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความเป็นปัจจัยของนามธรรมและรูปธรรม คือ รู้ชัดว่านามรูปแต่ละอย่างมีปัจจัยเป็นเหตุให้เกิด  
๓. สัมมสนญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับสืบต่อของนามธรรมรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นโทษของการเกิดดับได้ไม่ชัดเจน  
๔. อุทยัพพยญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับของนามธรรมรูปธรรมอย่างละเอียด เป็นวิปัสสนาที่มีกำลัง เห็นโทษของการเกิดดับของสภาพธรรมได้ยิ่งขึ้น  
๕. ภังคานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความดับทำลายของนามรูป โดยไม่ใฝ่ใจถึงการเกิด  ๖. ภยตุปัฎฐานญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูป โดยเห็นความเป็นภัยในสังขารทั้งหลาย  
๗. อาทีนวานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งรูป โดยเห็นความเป็นโทษในสังขารทั้งหลาย  
๘. นิพพิทานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูปโดยเห็นทุกข์โทษภัย จนเกิดความเบื่อหน่ายในสังขารธรรมทั้งปวง  
๙. มุญจิตุกัมยตาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูปโดยความที่ใคร่จะพ้นจากสังขารธรรมทั้งปวง  ๑๐. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะทั้ง ๓ ของนามรูป เป็นเหตุที่จะเปลื้องตนให้พ้นจากสังขารธรรม  
๑๑. สังขารุเบกขาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะทั้ง ๓ ของนามรูปที่คมกล้ายิ่งขึ้น จนเกิดความมัธยัสถ์ วางเฉยในสังขารธรรมทั้งปวง  
๑๒. อนุโลมญาณ ปัญญาในอนุโลมชวนะ ๓ ขณะในมัคควิถี (บริกรรม อุปจาร อนุโลม) คล้อยตามเพื่อการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน  
๑๓. โคตรภูญาณ ปัญญาในโคตรภูชวนะ กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์ ข่มเสียซึ่งโคตรปุถุชนเพื่อถึงอริยโคตร เป็นอาวัชชนแก่มรรคญาณ  
ปีที่ผ่านมา
๑๔. มรรคญาณ ปัญญาในมัคคจิตซึ่งเป็นโลกุตระ สำเร็จกิจทำลายกิเลส ดับวัฏฏทุกข์ ปิดประตูอบาย ๔ เป็นขณะที่ถึงพร้อมด้วยโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ  
๑๕. ผลญาณ ปัญญาในผลจิตที่เกิดต่อกัน  ๑๖.ปัจจเวกขณาณ  ญาณใช้ในการพิจารณาเป็นต้นโดยย่อ
พุทธศาสนาจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดภิกษุภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อันเป็นผู้ดำรงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ อันได้เเก่ ปริยัติ ปฏิบัติ เเละปฏิเวธ เป็นอริยะชน กัลยาณชน ทั้งที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ถึงจะเป็นพระปุถุชนก็ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา

เราไม่สามารถทำในบางสิ่งบางอย่างที่คนอื่นทำได้เเละคนอื่นก็ไม่สามารถทำในบางสิ่งบางอย่างที่เราทำได้ ทุกคนย่อมถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันเเละกันทำบุญร่วมชาติเกิดในพุทธศาสนาเดียวกัน ♡ปีนี้ผ่านไปปีใหม่เข้ามาอยู่ดีมีเเฮงเเข็งเเรงทุกคน อายุ วัณโณ สุขัง พลัง♡

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น