ิิblogspot
วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562
วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562
สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ
![]() |
กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา |
๒.รักษาขนบธรรมเนียมอันดีงามที่บรรพชนรุ่นก่อนได้ทำไว้อันเป็นประโยชน์เเก่ตนเเละส่วนร่วม
๓.เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาครูอาจารย์ให้ความเคารพรักในท่านผู้ทำอุปการะก่อน
๔.มีวาจาสุภาพออ่อนหวานเว้นจากวจีทุจริต๔มีปิยวาจาอันเป็นหนึ่งในสังคหวัตถุ๔
๕.กตัญูญรู้คุณเเก่ผู้มีอุปการะคุณเมื่อได้ดีควรตอบเเทนบุญคุณท่านด้วยอามิส ด้วยกำลังกาย
๖.รู้หน้าที่ของคนว่าเป็นนักเรียนควรตั้งศึกษาเล่าเรียนให้บรรลุเป้าหมายของตน
๗.ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญในศาสตร์ที่ตนรักมีความเพี่ยรพยายามในสิ่งนั้น
๘.รู้จักใช้จ่ายไม่ฟุ้มเฟิ่อยในสิ่งไม่ใช่ประโยชน์เก็บหอมรอมริบตามกำลังของตนของตน
๙.มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองเเละผู้อื่นมีน้ำใจนักกีฬารู้เเพ้รู้ชนะรู้อภัย
๑๐.ทำตนให้เป็นประโยชน์อายชั่วกลัวบาป สร้างประโยชน์เเก่ตนครอบครัวประเทศชาติ
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562
กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
๑.ธัมมาธิฏฐานา ธัมมเทศนา
วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562
ปฏิบัติธรรมเข้ากัมมัฏฐาน
นามรูปปริจเฉทญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความแยกขาดจากกันของนามธรรมและรูปธรรม ที่ละอารมณ์โดยสภาพความเป็นอนัตตา
![]() |
จากดงบั้งไฟสู่สถานที่ศึกษาเเละปฏิบัติธรรม |
๓. สัมมสนญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับสืบต่อของนามธรรมรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นโทษของการเกิดดับได้ไม่ชัดเจน
๔. อุทยัพพยญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งการเกิดดับของนามธรรมรูปธรรมอย่างละเอียด เป็นวิปัสสนาที่มีกำลัง เห็นโทษของการเกิดดับของสภาพธรรมได้ยิ่งขึ้น
๕. ภังคานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งความดับทำลายของนามรูป โดยไม่ใฝ่ใจถึงการเกิด ๖. ภยตุปัฎฐานญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูป โดยเห็นความเป็นภัยในสังขารทั้งหลาย
๗. อาทีนวานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งรูป โดยเห็นความเป็นโทษในสังขารทั้งหลาย
๘. นิพพิทานุปัสสนาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งนามรูปโดยเห็นทุกข์โทษภัย จนเกิดความเบื่อหน่ายในสังขารธรรมทั้งปวง

๑๑. สังขารุเบกขาญาณ ปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะทั้ง ๓ ของนามรูปที่คมกล้ายิ่งขึ้น จนเกิดความมัธยัสถ์ วางเฉยในสังขารธรรมทั้งปวง
๑๒. อนุโลมญาณ ปัญญาในอนุโลมชวนะ ๓ ขณะในมัคควิถี (บริกรรม อุปจาร อนุโลม) คล้อยตามเพื่อการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน
๑๓. โคตรภูญาณ ปัญญาในโคตรภูชวนะ กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์ ข่มเสียซึ่งโคตรปุถุชนเพื่อถึงอริยโคตร เป็นอาวัชชนแก่มรรคญาณ
![]() |
ปีที่ผ่านมา |
๑๕. ผลญาณ ปัญญาในผลจิตที่เกิดต่อกัน ๑๖.ปัจจเวกขณาณ ญาณใช้ในการพิจารณาเป็นต้นโดยย่อ
พุทธศาสนาจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดภิกษุภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา อันเป็นผู้ดำรงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ อันได้เเก่ ปริยัติ ปฏิบัติ เเละปฏิเวธ เป็นอริยะชน กัลยาณชน ทั้งที่ยังเป็นปุถุชนอยู่ถึงจะเป็นพระปุถุชนก็ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2562
อานาปานสติ

กรณียเมตตสูตร

โดยที่มาของพระสูตรเกิดขึ้นเมื่อพระ ภิกษุ ประมาณ 500 รูป ได้เรียน กรรมฐาน จากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นได้เดินทางไปแสวงหาเสนาสนะที่เป็นสัปปายะ สุดท้ายพระภิกษุทั้งหมดได้บำเพ็ญพระกรรมฐานอยู่ตามโคนไม้ ณ ป่าหิมวันต์ ในปัจจันตประเทศ ต่อมา บรรดารุกขเทวดา และเทพยดาที่สถิตอยู่ตามต้นไม้ ต่างต้องลงมาจากวิมานของตนเนื่องจากบรรดาพระภิกษุได้กระทำความเพียรอยู่ ณ โคนต้นไม้ เมื่อได้รับความลำบากและคิดว่าพระภิกษุเหล่านี้ต้องกระทำความเพียรตลอดพรรษาไม่อาจจะไปที่ไหนได้อีกจะยังความลำบากให้แก่พวกตนและลูกหลานของตนอีกยาวนาน บรรดารุกขเทวดาและเทพยดาในถิ่นนั้นจึงรวมตัวกันแสดงอาการอันน่ากลัว แล้วหลอก เพื่อขับไล่พระภิกษุเหล่านั้นพระภิกษุเหล่านั้นได้รับความลำบากกายลำบากใจอย่างยิ่งที่ถูกบรรดารุกขเทวดาและเทพยดาจำแลงกายหลอกหลอนตนจนไม่อาจบำเพ็ญเพียรเจริญพระกรรมฐานได้ ต่อมาจึงพากันเดินทางไปยังนครสาวัตถีเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระพุทธองค์ทรงสดับเรื่องราวแล้ว ทรงมีพระดำรัสให้ภิกษุทั้งหลายกลับไปเจริญพระกรรมฐานยังสถานที่แห่งเดิม
แล้วจึงทรงตรัสเมตตสูตร เพื่อให้ภิกษุทั้ง 500 รูปได้เจริญเมตตาโปรดรุกขเทวดาเทพยดาทั้งหลาย
สูตรว่าด้วยความเคารพ
ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด
ได้เกิดความคิดคำนึงขึ้นอย่างนี้ว่า “ภิกษุสักการะ เคารพ อาศัยอะไรหนอแลอยู่
จึงละอกุศล เจริญกุศลได้” ลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตรจึงมีความคิดดังนี้ว่า
๑. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
๒. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระธรรม
๓.ภิกษุสักการะ
เคารพ อาศัยพระสงฆ์
๔. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสิกขา
๕. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสมาธิ
๖. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยความไม่ประมาท
๗. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
ต่อมา
ท่านพระสารีบุตรได้มีความคิดดังนี้ว่า “ธรรมของเราเหล่านี้ บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทางที่ดี เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค ธรรมของเราเหล่านี้จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้
เปรียบเหมือนบุรุษได้ทองคำแท่งอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขามีความคิดอย่างนี้ว่า
‘ทองคำแท่งของเรานี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปเสนอทองคำแท่งนี้แก่ช่างทอง ทองคำแท่งของเรานี้ไปถึงช่างทองแล้วจักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วยอาการอย่างนี้ แม้ฉันใดธรรมของเราเหล่านี้
ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จักบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค ธรรมของเราเหล่านี้ก็จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ด้วยอาการอย่างนี้”
ครั้นในเวลาเย็น
ท่านพระสารีบุตรได้ออกจากที่หลีกเร้น๑- เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ดังนี้ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอประทานวโรกาส ข้าพระองค์หลีกเร้นอยู่ในที่สงัดเกิดความคิดคำนึงขึ้นอย่างนี้ว่า
‘ภิกษุสักการะ เคารพ อาศัยอะไรหนอแลอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้’
ลำดับนั้นแลข้าพระองค์จึงเกิดความคิดดังนี้ว่า
๑. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
๒. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระธรรม
๓. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยพระสงฆ์
๔. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสิกขา
๕. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยสมาธิ
๖. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยความไม่ประมาท
๗. ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ต่อมา ข้าพระองค์ได้มีความคิดดังนี้ว่า
‘ธรรมของเราเหล่านี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดี
เราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาคธรรมของเราเหล่านี้จักบริสุทธิ์
และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นด้วยอาการอย่างนี้
เปรียบเหมือนบุรุษได้ทองคำแท่งที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง เขามีความคิดอย่างนี้ว่า
‘ทองคำแท่งของเรานี้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ทางที่ดีเราควรจะไปเสนอทองคำแท่งนี้แก่ช่างทอง
ทองคำแท่งของเรานี้ไปถึงช่างทองแล้วจักบริสุทธิ์ และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ด้วยอาการอย่างนี้แม้ฉันใด ธรรมของเราเหล่านี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน
จักบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทางที่ดีเราควรจะไปกราบทูลธรรมเหล่านี้แด่พระผู้มีพระภาค
ธรรมของเราเหล่านี้ก็จักบริสุทธิ์และนับว่าบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
ด้วยอาการอย่างนี้”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร ภิกษุสักการะ เคารพ
อาศัยศาสดาอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้ ฯลฯ อาศัยธรรม ฯลฯ อาศัยสงฆ์ ฯลฯ
อาศัยสิกขา ฯลฯ อาศัยสมาธิ ฯลฯ อาศัยความไม่ประมาท ฯลฯ สารีบุตร ภิกษุสักการะ
เคารพ อาศัยปฏิสันถารอยู่ จึงละอกุศล เจริญกุศลได้”
(สักกัจจสูตร)
วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562
พระสถิตในดวงใจ
![]() |
เสด็จถิ่นกันดารไทยไปทุกภาค ทรงเหนื่อยยากอย่างไรไปทุกหน
พระเสโทรินหลั่งดั่งสายชล ประชาชนพ้นทุกข์เข็ญร่มเย็นเอย
น้อมระลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณ
คณะสงฆ์ชาวบ้านประชาชน
|
วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562
สวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ สอบธรรมศึกษา

