ถ้าเราคิดว่าจะออกตัวเพื่อช่วยคนอื่นก็ต้องยอมรับผลในด้านบวกเเละด้านลบไม่ว่าเราจะช่วยเขาด้วยความสงสารหรือเห็นใจด้วยมนุษยธรรมก็ตาม เเม้ว่าเราจะไม่ได้ผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้นก็ตาม ซ้ำร้ายอาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เเละตกเป็นผู้ร้ายในสายตาคนอื่นเเละอาจจะเป็นภัยร้ายเเก่ตัวเราเอง เพราะเป็นกรรมเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน เมื่อมีบุคคลหนึ่งถูกยกย่องก็ต้องมีบุคคลหนึ่งถูกเหยียบย่ำ ซึ่งจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การช่วยคนนั้นเป็นสิ่งที่ดีก็จริงเเต่ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาเพราะนั้นคือการที่เราเข้าไปยุ่งกับกรรมของคนอื่น เเต่บุคคลที่มีจิตใจเสียสละคงห้ามการกระทำนี้ไม่ได้หรือที่เรียกว่า:เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด อดช่วยไม่ได้เอ็นขาดคือเรา: การช่วยคนนั้นดีต้องถูกที่ถูกคนเเละถ้าคิดจะช่วยเขาเเล้วต้องช่วยให้ถึงที่สุดไม่ใช่การช่วยๆผลักๆ เพราะนั่นไม่ใช่การช่วยเหลือเเต่เป็นการนำภัยมาให้เขาโดยที่เราไม่รู้ตัว ที่สำคัญสงสารเขาเเล้วอย่าลืมสงสารตัวเองท้ายที่สุดคือเราต้องพึ่งตนเองในการเเก้ไขปัญหา
{เพราะทุกวันนี้บุคคลต่างก็มีสื่อในมือจะใช้ให้เป็นภัยเเก่คนอื่นหรือเป็นประโยขน์เเก่ตนเอง หรือ เป็นประโยชน์เเก่ตนเองเเต่เป็นโทษเเก่บุคคลอื่น ใช้ช่วยคนที่ทำถูกลงโทษคนที่ผิดก็ได้ ใช้ช่วยคนผิดให้ร้ายคนที่ทำถูกก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับผู้เล่าเรื่องนำเสนอสื่อสารนั้นๆจะทำไป ส่วนกฎหมายนั้นจะยุติธรรมหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่ามีคุณธรรมมากน้อยเเค่ไหน เเต่กฎเเห่งกรรมนั้นยุติธรรมเสมอจะให้ผลช้าหรือเร็ว ฝ่ายกุศลหรืออกุศลก่อนก็เเค่นั้น}
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น